ReadyPlanet.com
dot
dot
ค้นหาสินค้า


  [Help]
dot
dot
จำหน่ายของมงคล สินค้ามงคล ฮวงจุ้ย เสริมโชคลาภ สินค้านำโชค ของตกแต่งบ้าน
dot
dot
ติดต่อสอบถาม 081-407-0119
dot
dot
เทพเจ้าจีน
dot
bulletพระสังกัจจายน์
bulletกวนอู เทพเจ้ากวนอู
bulletเจ้าแม่กวนอิม กวนอิม
bulletฮกลกซิ่ว สินค้ามงคล
bulletไฉ่สิ่งเอี้ย ไฉ่ซิงเอี้ย
bulletพระอรหันต์
bulletเจ้าที่ ตี่จูเอี้ย
bulletเห้งเจีย หงอคง
bulletนาจา
bulletเจ้าแม่ทับทิม
bulletจี้กง เต้าจี้ฉานซือ
bulletเทพเจ้าจีน แบบอื่น ๆ
dot
ของมงคล สิริมงคล
dot
bulletของมงคล สิริมงคล
bulletพระพุทธรูป
bulletเจดีย์ 9 ชั้น เจดีย์
bulletภาพมงคล
bulletตุ๊กตาคู่บ่าวสาว
bulletของใช้แต่งงานแบบจีน
bulletกระบอกปากกามงคล
bulletที่วางนามบัตร
bulletก้อนทอง ของมงคล
bulletผลไม้มงคล ไหว้เจ้า
bulletน้ำเต้าแปดเซียน
bulletผักกาด
bulletปิระมิดแก้ว
bulletดอกบัวแก้ว
bulletเชิงเทียนแก้ว
bulletของมงคลทำจากแก้ว
bulletเครื่องเล่นบทสวดมนต์
bulletชุดบูชา พระพิฆเนศ
dot
เทพเจ้าฮินดู พราหมณ์
dot
bulletพระพิฆเนศ
bulletพระศิวะ
bulletเจ้าแม่อุมาเทวี
dot
ของมงคล เสริมดวง ฮวงจุ้ย
dot
bulletพวงแขวนเสริมมงคล
bulletโมบายเสริมโชคลาภ
bulletของมงคลอื่นๆ
dot
อุปกรณ์สวดมนต์
dot
bulletอุปกรณ์สวดมนต์
dot
เข็มทิศจีน หล่อแก
dot
bulletเข็มทิศจีน หล่อแก
dot
กระจกนูน หยินหยาง
dot
bulletกระจกแปดเหลี่ยม
bulletโป๊ยก่วย
dot
สัตว์มงคล นำโชค
dot
bulletนักษัตรราศีสมพงศ์
bulletนกอินทรีย์
bulletงูมงคล เสริมโชค
bulletวัวมงคล
bulletม้ามงคล
bulletเสือมงคล เสริมโชค
bulletเต่ามังกร เต่ามังกรมงคล
bulletเต่ามงคล
bulletช้างมงคล
bulletปลาหลีฮื้อ
bulletปลาอโรวานา
bulletสิงโตมงคล
bulletกิเลน ฮวงจุ้ย
bulletมังกรนำโชค
bulletปี่เซียะ พี่ซิ่ว ผีซิ่ว
bulletไก่มงคล
bulletนักษัตรปีวอก
bulletลิงขี่ม้า
bulletคางคกสามขา เซี่ยมซู้
bulletแพะมงคล
bulletเป็ดแมนดาริน
bulletหนูนำโชค
dot
หมูมงคล หมูนำโชค
dot
bulletหมูสีหยก
bulletหมูสีทอง
bulletหมูออมสิน
dot
แมวนำโชค
dot
bulletแมวกวักญี่ปุ่น เนโกะ
bulletแมวนำโชค
dot
ตกแต่งบ้าน ของมงคล ของใช้มงคล
dot
bulletเณรน้อยจีน
bulletเรือใบมังกร
bulletเรือสำเภา เรือจำลอง
bulletชุดกาน้ำพร้อมถ้วยชา
bulletถ้วยใส่โสมและชา
bulletกรอบรูปมงคล
bulletของมงคล Solar Cell
bulletน้ำมันหอมระเหย
dot
อุปกรณ์ศาลเจ้า-ตี่จูเอี๊ย
dot
bulletกิมฮวย
bulletหมิ่งซิ้ง เทพประตู
bulletชุดถ้วยไหว้เจ้า
bulletแจกันไหว้เจ้า
bulletกระถางธูปและอุปกรณ์
bulletโคมไฟไหว้เจ้า
bulletดอกบัวสวดมนต์
bulletจานรองธูป-ขดธูป
bulletเชิงเทียน
bulletอุปกรณ์อื่นๆ




ประวัติเทพเจ้ากวนอู article
 

ประวัติเทพเจ้ากวนอู

กวนอู (Guan Yu, ??, พินอิน:Gu?n Y?) มีชื่อรองว่า หยุนฉาง (ค.ศ. 160 - ค.ศ. 219) น้องร่วมสาบานคนรองของเล่าปี่ และเตียวหุย หน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก จักษุเรียวงามคล้ายนกการเวก คิ้วโก่งดั่งตัวหนอนไหม หนวดเคราสีดำงามยาวละเอียด มีง้าวมังกรเขียวยาว 8 ศอก หนัก 82 ชั่งจีน เป็นอาวุธคู่กาย ร่วมต่อสู้กับเล่าปี่ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาสู้ด้วยความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ ถึงจะพ่ายแพ้ศึก และยอมเป็นข้ารับใช้โจโฉ แต่ใจก็ยังคงภักดีต่อเล่าปี่เพียงผู้เดียว สร้างชื่อเสียงลือไกล ด้วยการสังหาร ฮัวหยงแม่ทัพของตั๋งโต๊ะ โดยที่สุรายังอุ่น ๆ อยู่ เอาชนะงันเหลียง และบุนทิว 2 แม่ทัพของอ้วนเสี้ยว ฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 แม่ทัพของโจโฉ และยังครองใจผู้คน ไม่ว่าเลียวฮัว และจิวฉอง รวมถึงเตียวเลี้ยวแม่ทัพของโจโฉ และฮองตง ที่แม้เคยเป็นศัตรู แต่ก็ครองใจได้ ขี่ม้าเซ็กเธาว์อาชาชั้นยอดของลิโป้ ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว อยู่ร่วมกับ กวนเป๋งบุตรบุญธรรม กับจิวฉอง ภายหลังถูก แผนกลยุทธ์ของลกซุน และลิบองฆ่าตาย แต่ถึงจะตายไป ก็ยังทำให้ลิบองตายตามไปด้วย หลังจากตายไป ได้ถูกยกย่องว่า เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ชึ่งภาษาจีนกลางเรียก กวนอี่ว์

                                   

กวนอู มีร่างกายกำยำ สูง 6 ศอก หนวดยาว 1 ศอก หน้าแดงก่ำ มีอาวุธคือง้าวมังกรเขียวหนัก 82 ชั่ง แต่เดิมเป็นคนขายถั่วชาวไกเหลียง ไม่มีที่อยู่แน่ชัดเนื่องจากเร่ร่อนไปเรื่อย ๆ ต่อมาพบกับเศรษฐีคนหนึ่งรังแกชาวบ้านจึงฆ่าเศรษฐีคนนั้นตาย ชาวเมืองไกเหลียงจึงยกย่องกวนอู แต่ทางการกลับประกาศจับกวนอู จนกวนอูต้องหลบหนีออกจากเมืองไกเหลียง ระหว่างผ่านด่านนอกเมืองได้ไปล้างหน้า เทพเจ้าได้ดลบันดาลให้หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง จนนายด่านจำไม่ได้ จึงผ่านออกมาได้ จนได้มาพบเล่าปี่และเตียวหุยที่ตุ้นก้วน ทั้งสามจึงสาบานเป็นพี่น้องกัน ต่อมากวนอูได้ร่วมรบกับเล่าปี่ปราบโจรโพกผ้าเหลืองจนราบคาบ แต่เล่าปี่กลับได้เป็นแค่นายอำเภออันห้อก้วน ส่วนน้องทั้งสองก็ไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ ยังเป็นเพียงคนสนิทของเล่าปี่เหมือนเดิม ต่อมามีเจ้าเมืองชื่อต๊กอิ้วมาตรวจราชการอำเภออันห้อก้วน เล่าปี่ไม่มีสินบนให้จึงถูกต๊กอิ้วเขียนฎีกาถวายฮ้องเต้ว่าเล่าปี่กบฏ เตียวหุยโกรธจัดจึงเฆี่ยนต๊กอิ้ว เล่าปี่เห็นท่าไม่ดีจึงหนีออกมาพร้อมกับน้องทั้งสอง ต่อมาทั้งสามก็ได้ระหกระเหินเร่ร่อน กวนอูนั้นก็สร้างวีรกรรมมากมายทั้งการบุกเดี่ยวหนีออกมาจากโจโฉมาหาเล่าปี่ทั้ง ๆ ที่โจโฉพยายามทำทุกวิถีทางที่จะมัดใจกวนอู แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ฆ่าฮัวหยง งันเหลียง บุนทิวในเพลงเดียว ไว้ชีวิตโจโฉหลังแพ้ศึกเซ็กเพ็กทั้ง ๆ ที่ได้ทำทัณฑ์บนไว้กับขงเบ้งว่าถ้าปล่อยให้โจโฉรอดไปจะต้องถูกประหาร บุกเดี่ยวข้ามฟากไปยังกังตั๋งเพื่อกินเลี้ยงตามแผนของโลซก แต่ผ่ายโลซกไม่อาจทำอะไรได้ เป็นต้น

จนเมื่อเล่าปี่ได้ครองเสฉวน เล่าปี่จึงแต่งตั้งให้กวนอูเป็น 1 ใน ห้าทหารเสือแห่งจ๊กก๊ก และได้ครองเมืองเกงจิ๋ว ต่อมาซุนกวนจับมือกับโจโฉบุกเกงจิ๋ว กวนอูถูกลิบองแม่ทัพแห่งง่อก๊กจับตัวไป กวนอูไม่ยอมสวามิภักดิ์ จึงถูกซุนกวนสั่งประหารพร้อมกับกวนเป๋งบุตรบุณธรรม ต่อมากวนอูจึงถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ มีผู้คนนับถือมากมายจนถึงปัจจุบัน

ภายหลังจากที่กวนอูตายไปแล้ว ซุนกวนได้ส่งศีรษะกวนอูไปให้โจโฉ เพื่อป้ายความผิดไปยังโจโฉ โจโฉเมื่อเปิดหีบดูศีรษะของกวนอูแล้ว พูดอย่างเยาะเย้ยว่า "กวนอู ท่านสบายดีหรือ ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านไม่เคยมาหาข้าพเจ้า แม้ข้าพเจ้าจะรั้งตัวท่านไว้ ท่านก็ไม่ยอมอยู่ แต่บัดนี้ท่านตายแล้วกลับมาหาข้าพเจ้า" พลันหัวของกวนอูก็ลืมตาขึ้น โจโฉตกใจมาก ระล่ำระลักว่า กวนอูนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก จึงให้ตั้งศาลบูชาเซ่นสรวงกวนอูที่นอกเมืองลกเอี๋ยง และหลังจากนั้นโจโฉก็มักปวดศีรษะและเห็นภาพหลอนอยู่บ่อย ๆ ก่อนที่จะเสียชีวิตไม่นาน

ซึ่งก่อนหน้านั้น ลิบองผู้ที่สามารถจับตัวกวนอูได้ ในงานเลี้ยงที่ฉลองชัยชนะที่มีต่อกวนอู จู่ ๆ ลิบองก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าซุนกวนด้วยเสียงอันดังที่ผิดแผกออกไปจากเสียงปกติ แล้วจึงล้มลงสิ้นชีวิตทันที ซุนกวนถึงกับกลัวลนลาน ทั้งหมดนี้เชื่อว่า เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ดวงวิญญาณของกวนอู

 

1กวนอูเกิดในปี ค.ศ.162 แต่เดิมชื่อเผิงเสียน ชื่อรองเดิมว่าฉางเซิง(1) เขาไปฆ่าปลัดอำเภอกับน้าชายปลัดอำเภอตาย จึงต้องหนีการตามล่าของทางการไปจนถึงด่านถงกวาน นายด่านที่รักษาด่านเห็นว่ามีพิรุธจึงถามว่าชื่อแซ่อะไร เขาตกใจพูดอะไรไม่ออกเอาแต่ชี้ไปที่ด่านนั้น นายด่านก็ถามว่าแซ่กวาน(กวน)หรือ กวนอูจึงตอบไปว่าใช่ นับจากนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อกวานหยู่หรือกวนอู และก็เปลี่ยนชื่อรองเป็นหยุนฉาง

          (2) กวนอูหลบหนีมาจนถึงอำเภอจุ่ยบ้านเกิดของเล่าปี่กับเตียวหุย วันหนึ่งเขาเดินเข้าไปในร้านเหล้าและตะโกนว่า "รีบเอาเหล้ามา กินแล้วเราจะไปอาสาแผ่นดิน" ขณะนั้นเล่าปี่และเตียวหุยกำลังกินเหล้ากันอยู่พอดี เล่าปี่เห็นกวนอูท่าทางห้าวหาญจึงเข้าไปทักทาย ทั้งสามคนคุยกันจนถูกคอ จึงได้สาบานเป็นพี่น้องกันที่สวนท้อหลังบ้านของเตียวหุย โดยเล่าปี่เป็นพี่ใหญ่ กวนอูเป็นพี่รอง และเตียวหุยเป็นน้องเล็ก ทั้งสามคนได้จัดตั้งกองทัพขึ้นมาเพื่อจัดการกับโจรโพกผ้าเหลืองที่ออกสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน โดยมีผู้บริจาคม้าและเหล็กสำหรับทำอาวุธแก่กองทัพ ทั้งสามก็ได้นำเอาเหล็กมาหลอมเป็นอาวุธ

              โดยกวนอูนั้นใช้ง้าวมังกรเขียว(3)เป็นอาวุธ ต่อมาเล่าปี่ได้บำเหน็จความชอบ ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักเป็นผู้บังคับกองทหารอำเภออานสี่เมื่อปี ค.ศ.184 มีกวนอูเตียวหุยเป็นผู้ช่วย ต่อมาเตียวก๊ก เตียวโป้ และเตียวเหลียงแกนนำโจรโพกผ้าเหลืองตายลง เล่าปี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายอำเภออานสี่(ฉบับท่านเจ้าพระยาพระคลังว่าเป็นเมืองอันห้อก้วน) ค.ศ.185 ผู้ตรวจราชการจากนครหลวงมีนามว่า ต๊กอิ้ว เดินทางมาตรวจสอบงานราชการ ณ อำเภออานสี่ ผู้ตรวจคนนี้ต้องการเงินสินบน แต่เล่าปี่ไม่มีให้จึงถูกผู้ตรวจทำรายงานใส่ร้ายส่งให้เมืองหลวง เตียวหุยโกรธมากจึงจับตัวต๊กอิ้วมาโบยตีต่อหน้าชาวบ้าน แล้วทั้งสามพี่น้องก็หนีออกจากอำเภออานสี่ไป ค.ศ.188 เล่าปี่ไปอยู่กับกองซุนจ้านเพื่อนสมัยเรียน กองซุนจ้านให้เล่าปี่ไปเป็นนายอำเภอผิงหยวน ต่อมาขุนศึกเจ้าเมืองเสเหลียง...ตั๋งโต๊ะ ได้ยกทัพเข้าไปแย่งชิงอำนาจในเมืองหลวง เขาสามารถยึดอำนาจส่วนกลางของราชวงศ์ฮั่นไว้ได้ เขาปลดฮ่องเต้เด็กหองจูเปียนออกและตั้งหองจูเหียบเป็นพระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งเป็นเพียงกษัตริย์หุ่นภายใต้การชักนำของเขาเท่านั้น โจโฉทนตั๋งโต๊ะไม่ได้จึงหนีออกไปรวบรวมกองทัพพันธมิตร 18 หัวเมืองในปี ค.ศ.189 ปีเดียวกับที่ตังโต๊ะยึดอำนาจได้นั้นเอง ค.ศ.190 กองทัพพันธมิตร 18 หัวเมืองยกให้อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำกองทัพ ซึ่งเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยก็ได้ไปในกองทัพครั้งนี้ด้วย โดยเล่าปี่เป็นทหารในสังกัดของกองซุนจ้าน ส่วนกวนอูเป็นนายทหารม้ามือธนู อ้วนเสี้ยวส่งซุนเกี๋ยนเข้าโจมตีตั๋งโต๊ะแต่ก็แพ้กลับมาเพราะอ้วนสุดไม่ยอมส่งเสบียงไปให้ทัพของเขา ฮัวหยงแม่ทัพซ้ายของตั๋งโต๊ะได้มาท้ารบและฆ่าแม่ทัพของฝ่ายพันธมิตรตายลงไปคนแล้วคนเล่า ในที่สุดกวนอูจึงขออาสาไปต่อสู้กับฮัวหยง ในชั้นแรกอ้วนเสี้ยวโกรธมากที่กวนอูที่เป็นเพียงทหารม้ามือธนูกลับกำแหงจะไปรบกับแม่ทัพอย่างฮัวหยง แต่โจโฉห้ามไว้ และให้กวนอูออกไปสู้กับฮัวหยง ปรากฏว่ากวนอูสามารถปลิดชีพฮัวหยงได้ในกระบวนท่าเดียวเท่านั้น

         (4) และแล้วลิโป้ก็ออกมาสู้รบเอง ขุนศึกฝ่ายพันธมิตรพ่ายแพ้คนแล้วคนเล่า เตียวหุยน้องคนเล็กก็ได้อาสาออกไปรบกับลิโป้ เมื่อรบกันได้สี่สิบเพลงกวนอูก็เข้าไปช่วย และเมื่อรบกันอีกสักพักเล่าปี่ก็เข้าไปร่วมวงด้วย ปรากฏว่าลิโป้ซึ่งได้ชื่อว่าไม่เคยแพ้ใครถึงกับต้องถอยกลับไปเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งทำให้สามพี่น้องร่วมสาบานมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว กวนอูเองก็ได้รับการสรรเสริญว่ามีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าลิโป้ผู้ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นเทพนักรบเลย

          (5) แต่สุดท้ายกองทัพพันธมิตรก็แตกคอกันเองและต้องแยกทางกันไป สามพี่น้องก็ได้ยกทัพกลับไปกับกองซุนจ้าน หลังจากนั้นไม่นานในปี ค.ศ.192 ลิโป้กับอ้องอุ้นร่วมมือกันฆ่าตั๋งโต๊ะได้สำเร็จ แต่ทั้งสองก็กุมอำนาจไม่นาน ลิฉุยกุยกีลูกน้องของตั๋งโต๊ะยกทัพเข้าลกเอี๋ยงได้ในเวลาไม่นานนัก ในปี ค.ศ. 193 โจโก๋บิดาของโจโฉถูกฆ่าตายโดยเตียวคีอดีตโจรโพกผ้าเหลืองซึ่งเป็นลูกน้องของโตเกี๋ยมเจ้าเมืองชีจิ๋ว

           (6) โจโฉยกทัพเข้าตีชีจิ๋ว เล่าปี่ยกทัพมาช่วยโตเกี๋ยม เขาเขียนสารขอให้โจโฉหยุดยั้งการตีชีจิ๋ว ประกอบกับขณะนั้นมีข่าวว่าลิโป้กำลังยกทัพเข้ามาตีกุนจิ๋ว โจโฉจึงถอยทัพไป ส่วนเล่าปี่ได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองชีจิ๋วในปี ค.ศ.193 ส่วนกวนอูได้เป็นปลัดเมืองเซี่ยพีที่อยู่ใกล้ๆนั้นเอง ต่อมาไม่นานลิโป้ที่ถูกโจโฉตีจนทัพแตกพ่ายก็หนีมาอยู่กับเล่าปี่ เล่าปี่ก็ให้ลิโป้ไปอยู่เมืองเสียวพ่าย ปี ค.ศ.196 ลิฉุยกับกุยกีขัดแย้งกันเองจนพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จหนีออกไป และไปพบกับกองทัพของโจโฉ โจโฉนำเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้กลับโลหยาง(ลกเอี๋ยง) แต่เห็นว่าทรุดโทรมเกิรกว่าจะบูรณะจึงย้ายเมืองหลวงไปยังฮูโต๋ ส่วนเล่าปี่ตอนนั้นได้ยกทัพไปตีอ้วนสุดพร้อมกับกวนอู ให้เตียวหุยรักษาเมือง กวนอูไปรบครั้งนี้ได้สร้างวีรกรรมตัดคอกิเหลงแม่ทัพของอ้วนสุดตายได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ต้องได้ทราบข่าวร้ายจากเตียวหุยว่าลิโป้ยึดชีจิ๋วไปแล้ว เล่าปี่เดินทางกลับไปชีจิ๋ว ลิโป้อ้างว่าต้องการควบคุมสถานการณ์ และให้เล่าปี่ไปอยู่เมืองเสียวพ่ายแทน ต่อมาในปีเดียวกัน เล่าปี่ก็หนีไปขอพึ่งโจโฉ ซึ่งในช่วงนี้กวนอูก็ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ยกย่องกวนอูว่าเป็น "เฒ่าหนวดงาม" โจโฉช่วยเล่าปี่ปราบลิโป้ได้สำเร็จในปี ค.ศ.198 ในช่วงที่โจโฉช่วยเล่าปี่ปราบลิโป้นี้มีเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับกวนอูอย่างหนึ่งที่หลอกว้านจงไม่ได้นำมาใส่ไว้ในบทงิ้ว นั่นคือกวนอูติดใจหญิงสาวคนหนึ่งถึงขนาดออกปากขอจากโจโฉ นางคือ ตู้สื้อ เป็นภรรยาของขุนนางคนหนึ่งของลิโป้ที่มีนามว่า ฉินหยีลู่ แต่โจโฉก็ไม่ยอมยกนางตู้สื้อให้กับกวนอู เพราะโจโฉเองก็เป็นเสือผู้หญิงตัวยงในยุคนั้นทีเดียว เขาจึงเก็บนางตู้สื้อเอาไว้เชยชมเสียเอง เหตุการณ์นี้มีบันทึกในจดหมายเหตุหัวหยางกว๋อจื้อของเฟยฉงจือและสามก๊กจี่ของเฉินโซ่ว(ตันซิ่ว)ด้วย จึงน่าจะเป็นเรื่องจริง แต่อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้เทพเจ้ากวนอูมัวหมองไป จึงถูกตัดออกจากบทงิ้วก็เป็นได้ ต่อมาในปี ค.ศ.200 โจโฉให้เล่าปี่ยกทัพไปปราบอ้วนสุด แต่อ้วนสุดตายเสียก่อน เล่าปี่ก็ยกทัพไปตีเอาชีจิ๋วซึ่งขณะนั้นเป็นของโจโฉคืนมา โจโฉโกรธมากยกทัพใหญ่มาตีทัพเล่าปี่แตกพ่าย เล่าปี่กับเตียวหุยหนีเตลิดไปคนละทาง กวนอูต้องยอมจำนนโดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ

              (7) คือ 1 กวนอูยอมรับใช้ราชวงศ์ฮั่นและพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่ใช่โจโฉ 2 พี่สะใภ้ทั้งสองนั้น กวนอูจะปรนิบัติดูแลอยู่ด้วย โจโฉต้องรับรองไม่ให้ใครมากล้ำกราย 3 ถ้ากวนอูรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ใดก็จะไปหาทันที ไม่ต้องร่ำลาโจโฉและไม่ให้โจโฉห้ามปรามด้วย โจโฉยอมรับเงื่อนไขสามข้อนี้ กวนอูจึงมาอยู่กับโจโฉ โจโฉแต่งตั้งให้กวนอูเป็นฮั่นโซ้วถิงโหวหรือพระยาพิทักษ์ฮั่น โจโฉปรนเปรอกวนอูด้วยทรัพย์สมบัติและอื่นๆอีกมากเพื่อให้กวนอูยอมรับใช้ตนเอง แต่กวนอูก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจ โจโฉจึงมอบม้าเซ็กเทาอดีตม้าศึกของเทพสงครามอย่างลิโป้ให้กวนอู ปรากฏว่ากวนอูดีใจมาก โจโฉจึงถามถึงสาเหตุ กวนอูก็ตอบว่าเพราะจะสามารถขี่ม้าเซ็กเทาวิ่งไปหาเล่าปี่ได้ทันที โจโฉจึงประทับใจในตัวกวนอูยิ่งนัก ในขณะที่กวนอูอยู่กับโจโฉนั้น แม้โจโฉจะชื่นชมกวนอูอย่างมากก็ตาม แต่เขาสังเกตสีหน้ากวนอูได้ว่ากวนอูคงจะอยู่กับเขาไม่นาน โจโฉจึงส่งเตียวเลี้ยวไปถามสาเหตุ กวนอูฟังคำเตียวเลี้ยวแล้วก็ทอดถอนใจกล่าวว่า "ข้าทราบเป็นอย่างดีว่าท่านโจโฉได้ปฏิบัติต่อข้าดียิ่ง หากแต่ท่านเล่าปี่ได้มอบความเมตตาให้แก่ข้าอย่างมหาศาล ข้าสาบานที่จะตายพร้อมกับเขา ข้าไม่อาจผิดคำสาบานที่ให้ไว้ได้ ยังไงเสียข้าก็จะต้องจากท่านโจโฉไป แต่ก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าจะตอบแทนบุญคุณของท่านโจโฉเสียก่อนอย่างแน่นอน" โจโฉได้ฟังที่เตียวเลี้ยวเล่าก็เห็นว่าเป็นการยุติธรรมดี และยิ่งเพิ่มความชื่นชมในตัวกวนอูยิ่งขึ้นไปอีก ต่อมาโจโฉยกทัพไปรบกับอ้วนเสี้ยว งันเหลียงขุนศึกของอ้วนเสี้ยวฆ่าขุนศึกโจโฉตายไปหลายคน กวนอูได้อาสาออกรบ เขาควบม้าวิ่งเข้าไปหางันเหลียงท่ามกลางดงข้าศึก และสามารถฆ่างันเหลียงได้ในการรบเพียงไม่กี่กระบวนซึ่งบางฉบับยังว่ากระบวนเดียวซะด้วยซ้ำไป ต่อมาก็สามารถกำจัดบุนทิวนายทหารเอกอีกคนของอ้วนเสี้ยวลงได้

             (8) ในการศึกครั้งนี้เขาได้พบกับเล่าปี่ในสนามรบด้วย กวนอูจึงคิดจะหนีโจโฉไปหาเล่าปี่พร้อมกับฮูหยินทั้งสอง เมื่อโจโฉรู้ว่ากวนอูจะไปแน่ๆจึงมอบทรัพย์มากมายแก่กวนอู แต่กวนอูไม่ได้รับของเหล่านั้นไว้เลยแม้แต่น้อย เขาเขียนจดหมายขออภัยต่อโจโฉและจากไปทันที ลูกน้องของโจโฉบางคนพยายามไล่ตาม แต่โจโฉกล่าวว่า "บุรุษผู้นั้นได้เลือกนายของเขาแล้ว จงปล่อยเขาไปเถิด" อย่างไรก็ตาม ในการหนีครั้งนี้กวนอูได้ฆ่าทหารนายด่านของโจโฉตายไปมากมายในเหตุการณ์ "หักห้าด่านสังหารหกนายพล"

             (9)อีกด้วย ระหว่างทางที่กวนอูหนีก็มาเจอกับเตียวหุย เตียวหุยโกรธมากที่กวนอูไปยอมจำนนโจโฉจึงไล่ฟันกวนอู พอดีกับที่ทหารโจโฉตามมา กวนอูจึงฆ่าทหารโจโฉเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตน เตียวหุยจึงเชื่อกวนอูและพากันไปหาเล่าปี่ที่อยู่กับอ้วนเสี้ยว ซึ่งต่อมาเล่าปี่ก็ได้หนีไปจากอ้วนเสี้ยว และลงใต้ไปขอพึ่งเล่าเปียวในปี ค.ศ.201 ค.ศ.207 เล่าปี่ได้พบกับจอมปราชญ์สุมาเต๊กโช เล่าปี่ได้ถามเขาถึงบัณฑิตผู้มีความสามารถ สุมาเต๊กโชกล่าว่าขงเบ้งและบังทองคือบัณฑิตนั้น เล่าปี่จึงได้ไปเชิญตัวขงเบ้งมาช่วยงาน โจโฉยกทัพล่องใต้มายังเกงจิ๋ว และส่งแฮหัวตุ้นมาปราบเล่าปี่ ขงเบ้งได้ใช้ความสามารถในการวางกลยุทธ์เผาทัพของแฮหัวตุ้นจนราบคาบ แต่ต่อมาโจโฉได้ยกทัพใหญ่มาด้วยตนเอง เล่าจ๋องผู้ครองเกงจิ๋วต่อจากเล่าเปียวประกาศยอมแพ้ เล่าปี่จึงต้องหนีต่อไปพร้อมกับประชาชนจำนวนมากในปีถัดมา(ค.ศ.208) ขงเบ้งได้ไปขอกำลังเสริมจากเล่ากี๋บุตรเล่าเปียว ณ แฮเค้า ส่วนกวนอูได้รับมอบหมายให้นำทหารและประชาชนส่วนหนึ่งอพยพไปทางเรือก่อน หลังจากนั้นเล่าปี่ได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับซุนกวน โจโฉยกทัพใหญ่มาอีกแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ยับเยินในศึกที่เรียกกันว่าศึกเซ็กเพ็ก ซึ่งตามบทงิ้วของหลอกว้านจงเขียนว่า ขงเบ้งได้วางแผนให้จูล่ง เตียวหุย กวนอู ไปซุ่มสกัดทัพของโจโฉในที่ต่างๆกัน โจโฉสามารถฝ่าสองคนแรกมาได้ แต่มาเจอกับกวนอูที่ด่านสุดท้าย แต่แล้วกวนอูก็ปล่อยโจโฉไปเพราะเห็นแก่บุญคุณเก่าก่อน ขงเบ้งทราบเรื่องก็กล่าวว่า ที่จริงเขาได้วางแผนไว้เช่นนี้อยู่แล้วเพื่อให้กวนอูได้ชำระบุญคุณกับโจโฉให้จบกันไป

            (10) แต่แล้วเล่าปี่กลับลอบโจมตีหัวเมืองของเกงจิ๋วตอนล่างไว้ได้ ในศึกนี้กวนอูได้รับหน้าที่เข้าตีเมืองเตียงสา เขาได้พบกับฮองตงยอดนักรบเฒ่าผู้มีฝีมือร้ายกาจ ทั้งสองต่อสู้กันอย่างสมศักดิ์ศรี แต่ม้าของฮองตงสะดุดล้ม ฮองตงตกม้าลงไปกองกับพื้น แต่กวนอูไม่ซ้ำเติมและบอกให้ไปเปลี่ยนม้ามาสู้ใหม่ หลังจากสู้กันสักพักฮองตงก็ถอยเข้าเมืองไป วันต่อมาฮันเหียนเจ้าเมืองสั่งให้ฮองตงยิงธนูดับชีพกวนอูเสีย ฮองตงแกล้งยิงพลาดมาถูกหมวกกวนอูเพื่อตอบแทนกวนอู แต่ฮันเหียนหาว่าฮองตงกบฏและจะประหาร อุยเอี๋ยนทหารในเมืองได้ก่อการจลาจลและฆ่าฮันเหียน เปิดเมืองเตียงสาให้กับกวนอู ฮองตงกับอุยเอี๋ยนจึงสวามิภักดิ์กับเล่าปี่ เล่าปี่สามารถยึดเกงจิ๋วตอนล่างไว้ได้ในปี ค.ศ.209

               (11) ในปี ค.ศ.211 เล่าปี่ยกทัพสู่ตะวันตกเตรียมทำศึกยึดเอ๊กจิ๋ว(เสฉวน) โดยเอาหวดเจ้ง บังทองไปเป็นกุนซือ ส่วนขงเบ้ง กวนอู จูล่ง เตียวหุย ได้ถูกมอบหมายให้รักษาเกงจิ๋วตอนล่าง ในระหว่างที่รบกับเล่าเจี้ยงแห่งเสฉวนอยู่นั้น เล่าปี่ได้ให้เตียวหุยกับจูล่งตามไปรบด้วย หัวเมืองเกงจิ๋วจึงเหลือเพียงกวนอูและขงเบ้งรักษาไว้ ในปี ค.ศ.214 เล่าปี่ก็ยึดเสฉวนได้ และขงเบ้งก็ถูกตามตัวไปช่วยงานบริหารราชการเสฉวน เหลือเพียงกวนอูรักษาเกงจิ๋วอยู่ผู้เดียว ก่อนที่ขงเบ้งจะไปเสฉวน เขาถามกวนอูว่าถ้าฝ่ายโจโฉหรือซุนกวนยกทัพมาตีเกงจิ๋วจะทำอย่างไร กวนอูตอบว่าเขาจะนำทหารออกไปสู้จนตัวตาย ขงเบ้งส่ายหน้า "นั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง" ขงเบ้งกล่าว "ท่านควรผูกมิตรกับซุนกวน แล้วตีโจโฉจึงจะควร" กวนอูรับฟัง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจนัก ซึ่งพฤติกรรมช่วงหลังของเขาจะสามารถยินยันข้อนี้ได้ดี ปี ค.ศ.215 ซุนกวนส่งจูกัดกิ๋นไปทวงเกงจิ๋วจากเล่าปี่ เล่าปี่อ้างว่าจะยึดมณฑลเลงจิ๋วเสียก่อนจึงจะคืน ซุนกวนกล่าวว่า "เล่าปี่ต้องการยืดเวลาด้วยคำพูดไร้สาระ" เขาส่งขุนนางง่อไปปกครองเมือง3เมือง คือ เลงเหลง เตียงสา และฮุยเอี๋ยง แต่ขุนนางง่อถูกกวนอูไล่ตะเพิดกลับไป ซุนกวนยิ่งโกรธมากขึ้น ส่งลิบองกับทหารสามหมื่นเข้ายึดสามเมืองข้างต้นได้สำเร็จ แต่เล่าปี่ได้มอบทหารให้กวนอูไปยึดสามเมืองคืนมา โลซกมาเจรจาทวงเกงจิ๋วคืนจากกวนอู โดยให้ทหารพักรบกันไว้ก่อน เขากล่าวตำหนิการปฏิเสธที่จะคืนเมืองของฝ่ายเล่าปี่ กวนอูตอบว่า "ในการโจมตี Wulin ท่านเล่าปี่เป็นผู้นำทัพต่อสู้ด้วยตนเอง แล้วเหตุใดเล่าเขาจึงไม่ได้รับผลตอบแทนแม้สักเศษเสี้ยวหนึ่งของแผ่นดิน" "หาใช่เช่นนั้นไม่" โลซกตอบ "เมื่อครั้งแรกที่ข้าพบกับท่านเล่าปี่ กองทัพของเขาเหลือไม่มากไปกว่าทัพหน่วยย่อยของขุนพลเท่านั้น เสบียงอาหารก็กำลังจะหมด ขวัญทหารก็หดหาย อำนาจก็แทบไม่เหลือ ในตอนนั้นท่านเล่าปี่สูญเสียกำลังใจจะทำสิ่งใด และกำลังวางแผนจะหนีไปให้ห่างไกลมิใช่หรือ ท่านซุนกวนได้ช่วยเหลือเล่าปี่ เขาใจกว้างกับท่านเล่าปี่ยิ่งนัก เขามอบดินแดนและทุกอย่างที่ท่านเล่าปี่ต้องการเพื่อป้องกันตนเอง เวลานี้ท่านเล่าปี่กลับประพฤติตนเป็นผู้เห็นแก่ตัว เขาปิดบังความจริง ละเมิดคุณธรรมและหลักที่ควรปฏิบัติ แล้วยังจะยึดเกงจิ๋วเอาไว้เสียอีก พฤติกรรมเช่นนี้แม้กระทั่งราษฎรสามัญก็ยังละอายแก่ใจ ยิ่งผู้ที่เป็นผู้ปกครองและสั่งการผู้คน ก็ย่อมต้องละอายใจยิ่งกว่า" กวนอูได้ยินดังนั้นก็เงียบไป ไม่ตอบคำโลซก ในความบาดหมางของฝ่ายจ๊กกับง่อครั้งนี้ยังมีเกร็ดอย่างหนึ่งที่หลอกว้านจงไม่ได้นำมาใส่ไว้ในบทงิ้วของเขา คือตอนที่กวนอูคุมทหารสามหมื่นมาโจมตีซุนกวนที่ Yiyang กำเหลงเป็นทหารคนหนึ่งที่ร่วมกับโลซกในการต้านทานกวนอูครั้งนั้น ในศึกครั้งนั้น กวนอูนำทหารชำนาญศึกห้าพันนายเดินทัพไปทางต้นน้ำระยะประมาณสิบลี้ซึ่งมีระดับน้ำพอจะเดินเท้าได้ เพื่อเตรียมตัวข้ามน้ำไปลอบโจมตียามค่ำคืน ในเวลานั้น กำเหลงซึ่งมีทหารเพียง 300 นาย กล่าวแก่โลซกว่า "ขอทหารให้ข้าอีกห้าร้อยคน ข้าจะนำทัพไปเผชิญหน้ากับกวนอูเอง ข้ามั่นใจว่าถ้ากวนอูรู้ว่าข้ายกทัพมาเอง เขาจะต้องไม่กล้าข้ามแม่น้ำอย่างแน่นอน" โลซกจึงมอบทหารให้กวนอูอีกพันนาย กำเหลงจึงยกทัพไปเผชิญหน้ากับทัพกวนอูในคืนนั้นเอง ส่วนกวนอูเมื่อรู้ว่ากำเหลงยกทัพมาก็หยุดเดินทัพและตั้งค่าย ณ ที่นั้น นับตั้งแต่นั้นชาวบ้านก็เรียกบริเวณที่กวนอูไม่ข้ามน้ำมาโจมตีกำเหลงว่า "หาดกวนอูขยาด" หรือ "หนองน้ำกวนอู" หลังการเจรจาครั้งนั้นไม่นาน โจโฉยกทัพโจมตีฮั่นจง เล่าปี่จึงทำสัญญาสงบศึกกับซุนกวน ซุนกวนส่งจูกัดกิ๋นไปเป็นทูตเจรจาเรื่องมณฑลเกงจิ๋ว ผลการเจรจาเป็นเอกฉันท์ว่า ให้ใช้แม่น้ำ Xiang เป็นตัวแบ่งเขตแดน เตียงสา กังแฮ และฮุยเอี๋ยงทางตะวันออกเป็นอาณาบริเวณปกครองของง่อก๊ก ขณะที่เมืองหนานจวุ้น เลงเหลงและบุเหลงเป็นอาณาบริเวณปกครองของจ๊กก๊ก ต่อมาซุนกวนส่งจูกัดกิ๋นพี่ชายของขงเบ้งมาเจรจาขอบุตรสาวกวนอูไปเป็นสะใภ้ กวนอูกลับด่าจูกัดกิ๋นซะสาดเสียเทเสีย เขาถึงกับกล่าวว่า "อันบุตรของเรานี้ชาติเชื้อเหล่าเสือ ไม่สมควรจะให้แก่สุนัข" และยังกล่าวว่าถ้าไม่เห็นแก่ที่จูกัดกิ๋นเป็นพี่ชายขงเบ้งจะฆ่าทิ้งเสีย ทำให้ซุนกวนโกรธแค้นมาก   

           (12) ค.ศ.217 กวนอูที่อยู่เกงจิ๋วได้เกณฑ์ทหารและซ่องสุมกำลังรบมากขึ้น กิมหัน เกงจี อุยหลง หมอเกียดเป๋งและบุตรชายเกียดเมา เกียดบก วางแผนจะฆ่าอองปิดผู้ซึ่งโจโฉมอบหมายให้ดูแลราชการเมืองฮูโต๋ในตอนนั้น ใช้ฮ่องเต้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านโจโฉ และส่งสารไปขอให้กวนอูยกทัพหนุนมาจากเกงจิ๋ว แต่สุดท้ายแผนนี้ก็ไม่สำเร็จ คนทั้งหมดที่ร่วมก่อการถูกอองปิดจับได้ในปีต่อมา (ค.ศ.218) และถูกประหารทั้งหมด เวลาล่วงเลยไปจนถึงปี ค.ศ.219 เล่าปี่ยึดครองฮั่นจง(ฉบับเจ้าพระยาพระคลังเรียกว่าฮันต๋ง)ได้และสถาปนาตนเป็นฮั่นจงอ๋อง แต่งตั้งให้กวนอูเป็นเฉียนเจียงจวินยศนายพลทัพหน้า บทงิ้วของหลอกว้านจงเขียนว่า กวนอูไม่พอใจและส่งสาส์นไปถามขงเบ้งว่า "เตียวหุยเป็นน้องเราถือว่าสมควร ส่วนจูล่งติดตามเรามานานปีก็สมควร แต่ม้าเฉียวและฮองตงเล่ามีดีอันใด" ขงเบ้งต้องส่งจดหมายไปสรรเสริญว่ากวนอูไร้เทียมทาน กวนอูจึงยอมสยบ

           (13) ส่วนสามก๊กฉบับประวัติศาสตร์กล่าวว่า เล่าปี่ตั้งกวนอูเป็นแม่ทัพหน้า และฮองตงเป็นแม่ทัพขวา บีสีนายพันทหารหน่วยหน้ามณฑลเสฉวนได้รับมอบหมายให้นำตราตั้งไปมอบให้กวนอู กวนอูเมื่อทราบว่าฮองตงได้เป็นแม่ทัพระดับเดียวกับตนก็โกรธมาก เขากล่าวว่า "ข้าดีกว่าเจ้าโง่นั่นมากนัก" และปฏิเสธตำแหน่งนายพลนี้ แต่บีสีได้กล่าวต่อกวนอูว่า "การทำการใหญ่ไม่อาจมีมิตรสหายเพียงคนเดียว ในอดีตนั้น เซียวเหอและเฉาเซิน

          (14)ต่างเป็นเพื่อนเก่าที่ร่วมทำงานมากับฮั่นเกาจู่หลิวปังปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ขณะที่หันซิ่นกับ เฉินผิง มาทีหลังในฐานะผู้อพยพ เมื่อฮั่นเกาจู่ทำการสำเร็จ หันซิ่นได้รับตำแหน่งใหญ่ที่สุดเป็นถึงฉีอ๋อง แต่ข้าไม่เคยได้ยินว่าท่านเซียวเหอและท่านเฉาเซินจะไม่พอใจในเรื่องนี้แต่อย่างใดเลย ถ้าฮั่นจงอ๋องผู้ต้องการรักษาเกียรติแห่งราชวงศ์ฮั่นจะมอบรางวัลแก่บางคนสำหรับความสำเร็จของเขาตามแต่โอกาส เหตุใดเล่าท่านจึงคิดว่าท่านอ๋องให้เกียรติท่านไม่ต่างจากบุคคลอื่น ท่านและท่านอ๋องสนิทสนมชิดเชื้อราวกับเป็นร่างกายเดียวกัน อีกทั้งท่านก็ร่วมสุขร่วมทุกข์มากับท่านอ๋อง ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะตัดสินความรู้สึกของท่านอ๋องจากของขวัญและตำแหน่งศักดินาที่ได้รับ ข้าเป็นคนส่งสาร ก็จักต้องทำตามหน้าที่ ถ้าท่านปฏิเสธการแต่งตั้ง ข้าก็จะต้องกลับไปด้วยความเสียใจที่ไม่อาจทำหน้าที่ให้ลุล่วง และข้าคิดว่าท่านเองก็อาจจะเสียใจเช่นกัน" กวนอูประทับใจมาก เขายอมรับความผิดของตนและรับการแต่งตั้งจากเล่าปี่โดยดีในทันที ในปีเดียวกัน กวนอูแต่งตั้งบิฮองเจ้าเมืองลำกุ๋นให้ป้องกันเมืองกำเหลง และมอบหมายให้แม่ทัพเปาสูหยินป้องกันเมืองกองอั๋น ส่วนตัวเขาเองนำทัพไปโจมตีโจหยินที่อ้วนเซีย โจหยินตั้งค่ายอยู่ทางเหนือของอ้วนเซีย ส่วนอิกิ๋มและบังเต๊กตั้งค่ายอยู่ทางเหนือของอ้วนเซีย เกิดฝนตกหนักในเดือนแปด ระดับน้ำสูงมากจนพังตลิ่งแม่น้ำฮันซุย ทัพของอิกิ๋มถูกน้ำท่วมหนักจึงไต่ขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำที่ไหลบ่าเข้ามา กวนอูฉวยโอกาสล่องเรือไปโจมตีพวกเขา อิกิ๋มเห็นเหลือกำลังจึงยอมจำนน ส่วนบังเต๊กต่อสู้ต้านทานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง เขาใช้ธนูยิงทัพของกวนอูจนลูกธนูหมด ทหารของเขายอมจำนนกันหมด เขาลงเรือเล็กเพื่อกลับค่ายของโจหยิน แต่เรือของเขาพลิกคว่ำ เขาต้องเกาะเรือที่พลิกคว่ำไว้ อาวุธเขาถูกสายน้ำพัดหายไป เมื่อไม่มีอาวุธเขาจึงถูกกวนอูจับได้ในที่สุด บังเต๊กเดินมาหน้ากวนอูและไม่โค้งคำนับ กวนอูกล่าวว่า "ท่านก็มีลูกพี่ลูกน้องอยู่ฮั่นจง ข้าเองก็ยินดีที่จะมีลูกน้องเช่นท่าน เหตุใดท่านจึงไม่สวามิภักดิ์โดยดี" "ไอ้ไพร่สถุล" บังเต๊กสบถ "เหตุใดเจ้าจึงพูดถึงการยอมจำนนเล่า ท่านวุยอ๋องของเรามีทหารกว่า1ล้าน อำนาจของเขาสะเทือนแผ่นดิน เล่าปี่ของเจ้าไม่มีสิ่งใดพิเศษเลย ไม่มีทางจะสู้เขาได้ ข้ายอมตาย แต่ไม่มีทางจะยอมรับใช้โจรกบฏเป็นอันขาด" กวนอูเมื่อฟังคำบังเต๊กก็รู้ว่าบังเต๊กไม่มีทางสวามิภักดิ์ตนแน่ เขาจึงสั่งฆ่าบังเต๊กเสีย แต่เขาก็นับถือความกล้าหาญจงรักภักดีของบังเต๊ก และยกย่องว่าบังเต๊กเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ศึกครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงกวนอูดังระบือไปทั่วแผ่นดิน โจโฉยังหวาดหวั่นถึงขนาดจะย้ายเมืองหลวงหนี แต่สุมาอี้และเหล่าที่ปรึกษาแนะนำว่า "กวนอูเป็นคนเก่งแต่เย่อหยิ่งทรนงตัว ถ้ายุให้ซุนกวนแห่งง่อเข้าตีเกงจิ๋วได้ กวนอูจะขาดฐานที่มั่นและเราจะมีโอกาสชนะ" ซุนกวนส่งลกซุนมาประจำการที่เกงจิ๋วแทนลิบอง กวนอูเห็นเช่นนั้นก็ได้ใจเพราะเห็นว่าลกซุนเป็นแค่บัณฑิตหนุ่ม ลกซุนเห็นได้ทีจึงเขียนจดหมายมาสรรเสริญกวนอูอีกจนกวนอูวางใจ กวนอูเมื่อรบชนะอิกิ๋มและได้เชลยศึกจำนวนมาก เสบียงของเขาก็เริ่มขาดแคลน กวนอูจึงถือวิสาสะยึดคลังเสบียงของซุนกวนที่ เซียงกวน ไปโดยไม่บอกกล่าว กวนอูยกทัพขึ้นเหนือมายังอ้วนเซีย แต่คราวนี้เขาเจอกับซิหลงขุนพลผู้เก่งกาจของโจโฉ เขาถูกซิหลงใช้กลศึกโจมตีพ่ายแพ้ ต้องถอยทัพกลับไป แต่กลับได้ทราบข่าวร้ายว่าลิบองได้ยึดเกงจิ๋วไปแล้ว เขารีบนำทัพกลับลงใต้ทันที ตอนแรกโจหยินคิดจะตีตลบหลังกวนอู แต่เอียวงันห้ามไว้ และต่อมามีคำสั่งจากโจโฉมาว่าไม่ให้ยกทัพตามกวนอู โจหยินจึงเลิกล้มความคิดนี้ กวนอูส่งทูตไปหาลิบองหลายครั้ง ลิบองนำทูตเหล่านั้นไปรอบเมือง เหล่าชาวเมืองได้ฝากจดหมายไปให้ญาติๆของพวกเขาที่อยู่ในกองทัพกวนอู เมื่อกองทัพกวนอูได้รับจดหมายจากญาติพี่น้อง จึงไม่มีจิตใจต่อสู้ กวนอูมุ่งหน้าไปตะวันตกยังเมืองเป๊กเสีย ซุนกวนส่งทูตไปขอให้เขายอมจำนน เขาแกล้งตกลงไป แต่กลับตั้งธงศึกบนกำแพงให้เหมือนมีทหารมากมาย แล้วก็ลอบหนีออกไป ซุนกวนส่งจูเหียนและพัวเจี้ยงไล่ตามกวนอูไป พวกเขาสามารถจับกวนอูและบุตรชายคือกวนเป๋งได้ที่เขาเจาสัน และกวนอูก็ถูกประหารในเดือนสิบสองของปี ค.ศ.219

         รวมอายุได้ 57 ปี...หัวของกวนอูถูกซุนกวนส่งไปให้โจโฉ ณ นครฮูโต๋ ซึ่งมันเป็นอุบายที่จะหลอกเล่าปี่ว่าโจโฉเป็นคนสั่งให้ฆ่ากวนอู เพื่อให้เล่าปี่ไปทำสงครามกับโจโฉแทน แต่โจโฉรู้ทันจึงจัดงานศพให้แก่กวนอูอย่างสมเกียรติ ฝังซากศพของกวนอูไว้ ณ ประตูเมืองโลหยาง(ลกเอี๋ยง)ด้านใต้ ส่วนเล่าปี่ก็ไม่หลงกลและโกรธแค้นซุนกวนมาก ซึ่งมันทำให้เกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างเล่าปี่กับซุนกวน สงครามครั้งนี้ถูกเรียกกันว่า "สงครามอิเหลง" หรือสงครามหยีหลิง..ซึ่งลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ยับเยินของเล่าปี่ในปี ค.ศ.222... (1) บางแห่งก็ว่าชื่อรองเดิมของกวนอูคือโซ่วฉาง แต่โซ่วฉางกับฉางเซิงก็มีความหมายเหมือนกันคืออายุยืน (2) แปลว่าเมฆยาว (3) สามก๊กฉบับท่านเจ้าพระยาพระคลัง(หน)เรียกง้าวของกวนอูว่า ง้าวนิลนาคะ (4) ที่จริงแล้วประวัติศาสตร์บันทึกว่าซุนเกี๋ยนต่างหากที่เป็นคนฆ่าฮัวหยงได้ (5) ที่จริงแล้วเหตุการณ์3พี่น้องรุมรบลิโป้ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ฉบับของเฉินโซ่ว(ตันซิ่ว) (6) ประวัติศาสตร์บันทึกว่าคนที่ฆ่าโจโก๋คือกองทัพของโตเกี๋ยมที่ไปตั้งค่ายอยู่แถวๆนั้น (7) ประวัติศาสตร์บันทึกว่ากวนอูยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข (8) ประวัติศาสตร์บันทึกว่าโจโฉเป็นคนฆ่าบุนทิวด้วยกลศึก (9) ไม่มีเหตุการณ์นี้ในประวัติศาสตร์ (10) เหตุการณ์นี้ไม่มีในประวัติศาสตร์ และไม่สมเหตุสมผลด้วย เนื่องจากบทงิ้วเขียนว่าโจโฉหนีวกไปวนมาราวกับไปทัศนาจรนอกสถานที่ ซึ่งไม่มีเหตุผลจะต้องทำเช่นนั้น (11) เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่หลอกว้านจงแต่งขึ้น ตามประวัติศาสตร์จริงฮันเหียนเจ้าเมืองเตียงสายอมจำนนต่อเล่าปี่เอง ส่วนอุยเอี๋ยนและฮองตงนั้นเพิ่งจะมาสวามิภักดิ์เมื่อตอนที่เล่าปี่ไปบุกยึดฮั่นจงในปี ค.ศ.219 ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่กวนอูไม่พอใจที่ฮองตงได้รับแต่งตั้งเป็นนายพล เพราะเขาเพิ่งมาสวามิภักดิ์ใหม่นั่นเอง (12) เหตุการณ์นี้ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์บางฉบับ อาจเป็นเรื่องแต่งของหลอกว้านจง (13) บทงิ้วกล่าวว่าเล่าปี่ตั้งนายพลทีเดียว2คนคือม้าเฉียวและฮองตงในปี ค.ศ.219 และกวนอูก็ไม่พอใจเพียงครั้งเดียว ส่วน "ยกเครื่องเรื่องสามก๊ก" ของเล่าชวนหัว กล่าวว่ากวนอูไม่พอใจเมื่อเล่าปี่ตั้งนายพลทั้ง2ครั้ง ครั้งแรกคือม้าเฉียวในปี ค.ศ.214 ซึ่งขงเบ้งต้องส่งจดหมายไปสรรเสริญกวนอู ส่วนครั้งที่2 คือฮองตงในปี ค.ศ.219 บีสึต้องเกลี้ยกล่อมกวนอูจนเขายอมรับตำแหน่ง ส่วนสามก๊กประวัติศาสตร์ของพี่ซุนเซ็กบอกว่าเล่าปี่แต่งตั้งฮองตง ม้าเฉียว กวนอูในปีเดียวกันคือ ค.ศ.219 แต่กวนอูไม่พอใจฮองตงเพียงคนเดียว และไม่บันทึกเหตุการณ์ในปี 214 ที่ขงเบ้งส่งจดหมายไปสรรเสริญกวนอูแต่อย่างไร (14) เฉาเซินเป็นเพื่อนเก่าของหลิวปังที่ร่วมก่อการมาด้วยกันตั้งแต่อำเภอพ่าย ต่อมาเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของราชวงศ์ฮั่นต่อจากเซียวเหอ เขายังเป็นต้นตระกูลของเฉาเถิงหรือโจเท้ง ขันทีเฒ่าซึ่งต่อมารับเด็กหนุ่มคนหนึ่งจากตระกูลแฮหัวเป็นบุตรบุญธรรม เด็กหนุ่มคนนี้ในเวลาต่อมาก็คือเฉาซง...โจโก๋ บิดาของโจโฉนั่นเอง บทนี้ขอเปลี่ยนดอกจันเป็นตัวเลขนะครับ เพราะดอกจันเยอะเหลือเกิน(มี11ดอก) ถ้าเขียนดอกจัน คนอ่านคงต้องมานั่งนับกันมึน เสียอรรถรสเปล่าๆ ครับ บทความนี้ได้นำข้อมูลมาจาก ยกเครื่องเรื่องสามก๊ก ชำแหละกึ๋นเล่าปี่ ของเล่าชวนหัว สามก๊กฉบับประวัติศาสตร์ของพี่ซุนเซ็ก บทความเจาะลึกเหล่าขุนพลสามก๊กของพี่อีเกิ้ล ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ และถ้าทำผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org

 




เรื่องน่ารู้ เทพเจ้าจีน เทพเจ้าฮินดู ของมงคล วัตถุมงคล ฮวงจุ้ย

Chinese new year
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแผนผังแปดทิศ
แปดวิเศษของโป๊ยเซียน
การตั้งเทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ย
วิธีบูชาเจ้าแม่กวนอิม
เครื่องราง ติดตัวไว้ได้โชคร่ำรวย
วิธีการบูชาพระพิฆเนศอย่างถูกต้อง
ควรบูชา พระพิฆเนศ อย่างไร
ประวัติพระพิฆเนศในประเทศไทย
ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ
ประวัติชูชก สุดยอดในการขอ
แก้กรรม เสริมดวง
ชุมทางอาชีพ สัมภาษณ์ numchoke.com
ตำนานแปดเซียน article
เทพเจ้ากับการบูชา article
เทพไฉ่สิ่งเอี้ย article
ตำนานเทพเจ้าจีน article
พรีเมียม เสริมชะตา article
คาถาบูชา บทสวดมนต์ง่ายๆ สำหรับบูชาพระพิฆเนศ



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
125/6 หมู่ที่ 3 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
โทร. 02-923-3366 , 081-407-0119

วันทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ : 08.30- 17.00 น.

E-mail : lekbasic@gmail.com