ReadyPlanet.com
dot
dot
ค้นหาสินค้า


  [Help]
dot
dot
จำหน่ายของมงคล สินค้ามงคล ฮวงจุ้ย เสริมโชคลาภ สินค้านำโชค ของตกแต่งบ้าน
dot
dot
ติดต่อสอบถาม 081-407-0119
dot
dot
เทพเจ้าจีน
dot
bulletพระสังกัจจายน์
bulletกวนอู เทพเจ้ากวนอู
bulletเจ้าแม่กวนอิม กวนอิม
bulletฮกลกซิ่ว สินค้ามงคล
bulletไฉ่สิ่งเอี้ย ไฉ่ซิงเอี้ย
bulletพระอรหันต์
bulletเจ้าที่ ตี่จูเอี้ย
bulletเห้งเจีย หงอคง
bulletนาจา
bulletเจ้าแม่ทับทิม
bulletจี้กง เต้าจี้ฉานซือ
bulletเทพเจ้าจีน แบบอื่น ๆ
dot
ของมงคล สิริมงคล
dot
bulletของมงคล สิริมงคล
bulletพระพุทธรูป
bulletเจดีย์ 9 ชั้น เจดีย์
bulletภาพมงคล
bulletตุ๊กตาคู่บ่าวสาว
bulletของใช้แต่งงานแบบจีน
bulletกระบอกปากกามงคล
bulletที่วางนามบัตร
bulletก้อนทอง ของมงคล
bulletผลไม้มงคล ไหว้เจ้า
bulletน้ำเต้าแปดเซียน
bulletผักกาด
bulletปิระมิดแก้ว
bulletดอกบัวแก้ว
bulletเชิงเทียนแก้ว
bulletของมงคลทำจากแก้ว
bulletเครื่องเล่นบทสวดมนต์
bulletชุดบูชา พระพิฆเนศ
dot
เทพเจ้าฮินดู พราหมณ์
dot
bulletพระพิฆเนศ
bulletพระศิวะ
bulletเจ้าแม่อุมาเทวี
dot
ของมงคล เสริมดวง ฮวงจุ้ย
dot
bulletพวงแขวนเสริมมงคล
bulletโมบายเสริมโชคลาภ
bulletของมงคลอื่นๆ
dot
อุปกรณ์สวดมนต์
dot
bulletอุปกรณ์สวดมนต์
dot
เข็มทิศจีน หล่อแก
dot
bulletเข็มทิศจีน หล่อแก
dot
กระจกนูน หยินหยาง
dot
bulletกระจกแปดเหลี่ยม
bulletโป๊ยก่วย
dot
สัตว์มงคล นำโชค
dot
bulletนักษัตรราศีสมพงศ์
bulletนกอินทรีย์
bulletงูมงคล เสริมโชค
bulletวัวมงคล
bulletม้ามงคล
bulletเสือมงคล เสริมโชค
bulletเต่ามังกร เต่ามังกรมงคล
bulletเต่ามงคล
bulletช้างมงคล
bulletปลาหลีฮื้อ
bulletปลาอโรวานา
bulletสิงโตมงคล
bulletกิเลน ฮวงจุ้ย
bulletมังกรนำโชค
bulletปี่เซียะ พี่ซิ่ว ผีซิ่ว
bulletไก่มงคล
bulletนักษัตรปีวอก
bulletลิงขี่ม้า
bulletคางคกสามขา เซี่ยมซู้
bulletแพะมงคล
bulletเป็ดแมนดาริน
bulletหนูนำโชค
dot
หมูมงคล หมูนำโชค
dot
bulletหมูสีหยก
bulletหมูสีทอง
bulletหมูออมสิน
dot
แมวนำโชค
dot
bulletแมวกวักญี่ปุ่น เนโกะ
bulletแมวนำโชค
dot
ตกแต่งบ้าน ของมงคล ของใช้มงคล
dot
bulletเณรน้อยจีน
bulletเรือใบมังกร
bulletเรือสำเภา เรือจำลอง
bulletชุดกาน้ำพร้อมถ้วยชา
bulletถ้วยใส่โสมและชา
bulletกรอบรูปมงคล
bulletของมงคล Solar Cell
bulletน้ำมันหอมระเหย
dot
อุปกรณ์ศาลเจ้า-ตี่จูเอี๊ย
dot
bulletกิมฮวย
bulletหมิ่งซิ้ง เทพประตู
bulletชุดถ้วยไหว้เจ้า
bulletแจกันไหว้เจ้า
bulletกระถางธูปและอุปกรณ์
bulletโคมไฟไหว้เจ้า
bulletดอกบัวสวดมนต์
bulletจานรองธูป-ขดธูป
bulletเชิงเทียน
bulletอุปกรณ์อื่นๆ




ตำนานเทพเจ้าจีน article

ตำนานเทพเจ้าจีน


ในช่วงศตวรรษที่ 3-6 คนจีนเชื่อว่าจักรวาลในปัจจุบันเป็นเพียงวัตถุก้อนเดียวหน้าตาคล้ายๆไข่ไก่ หมุนวนไปมาจนดูครึ้มเหมือนเมฆหมอก กาลเวลาผ่านไปก็มีสัตว์ประหลาดเกิดขึ้นจากกลุ่มเมฆหมอก นี่แหละ เขาเรียกกันว่า ผางอู๋(Pangu) บางตำราก็เรียกกันว่า ผานกู่ (Panku) แต่ก็เป็นเจ้าตัวเดียวกันนี่แหละ เรื่องเล่าของ ผางอู๋ก็มีหลายตำราอีกเหมือนกัน บางตำราบอกว่าสัตว์นี้รูปร่างใหญ่โตกำยำ มีเขางอกที่หัว มีเขี้ยวงอกที่ปาก มีขนรุงรังเต็มตัว มือซ้ายถือสิ่ว มือขวาถือขวานใหญ่ บางตำราบอกว่ามี 7 แขน 8 เท้าบางตำราบอกตรงข้ามกันไปเลยว่า เป็นเหมือนคนแคระนุ่งห่มหนังหมีหรือใบไม้ บางตำราบอกว่าอยู่ในไข่ แต่สิ่งที่ตรงกัน เจ้าผางอู๋นี้ ตัวโตเร็วมาก สูงขึ้นได้ถึงวันละ 10 ฟุต พอโตมากจักรวาลรูปไข่ที่อยู่ก็แตกออกเป็นสองส่วน ส่วนที่ใสสะอาด(สงสัยเป็นไข่ขาว)กลายมาเป็นสรวงสวรรค์ ส่วนที่ขุ่นข้นกว่า(สงสัยเป็นไข่แดง) ตกลงมาเป็นตะกอน กลายเป็นแผ่นดิน แล้วมีเจ้าผางอู๋นี่แหละอยู่ตรงกลางเป็นตัวแยก พอเจ้าผางอู๋โตขึ้น ฟ้ากับดินก็แยกกันมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป กว่าผางอู๋จะตายประมาณว่าฟ้าดินห่างกันราว 30,000 ไมล์
ฟ้ากับดินที่เจ้าผางอู๋ไปขั้นไว้นั้น ฟ้าเปรียบได้กับเพศชาย เรียกว่า หยาง(Yang) ซึ่งแสดงถึงความอบอุ่น แสงสว่างตรงข้ามกับหยิน(Yin)ซึ่งเปรียบได้เหมือนเพศหญิง ซึ่งแสดงถึงความมืดและความหนาวเย็นนั่นแหละ

ส่วนดินที่เจ้าผางอู๋ใช้เท้ายันไว้นั้น เล่ากันว่ามีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีมหาสมุทรอยู่ล้อมทั้งสี่ด้าน เรียกไดว่าเป็นด้านล่างของเปลือกไข่ ส่วนท้องฟ้าที่แน่นอนว่าเป็นด้านบนของไข่นั้น มีรูปเหมือนชามคว่ำ มีพระอาทิตย์ตั้ง 10 ดวง มีพระจันทร์ 12 ดวง ลอยไปลอยมาใต้รูปชามคว่ำฝา

เนื่องจากพระอาทิตย์มีตั้ง 10 ดวง เลยต้องมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปปรากฏตัวบนท้องฟ้าดดยพระอาทิตย์จะนั่งรถทรง มีหมู่มังกรลาก รุ่งอรุณที่พระอาทิตย์ต้องทำหน้าที่ก็จะค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากหุบเขาแสงสว่าง แล้วไปสรงน้ำที่ทะเลสาบสุดขอบของจักรวาลด้านตะวันออก พอสรงสนานเสร็จ ก็จะปีนต้นไม้ที่อยู่ข้างทะเลสาบ อีก 9 ดวงที่ไม่มีหน้าที่ก็ปีนอยู่แถวกิ่งล่างๆ ดวงที่เข้าเวรก็ปีนอยู่แถวบนๆ เพื่อรอขึ้นไปทำหน้าที่ต่อ พอรถมารับพระอาทิตย์ก็นั่งรถไปเรื่อยๆจนถึงขอบตะวันตก ส่วนพระจันทร์ก็ใช่ย่อยไม่น้อยหน้ามีรถทรงเหมือนกัน แต่วิ่งสลับทางกัน พระจันทร์นั่งรถจากทางทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก พระจันทร์กับพระอาทิตย์ที่มีอยู่มาดวงจึงทำงานดังนี้

กลับมาเรื่องเจ้าผางอู๋กันต่อ เจ้าผางอู๋ก็ค้ำยันระหว่างฟ้ากับดินมาเรื่อยๆจนตาย พอตายไปเจ้าผางอู๋ก็สลายธาตุไปเป็นสิ่งต่างๆนานา บนโลกมนุษย์นี่แหละ ลมหายใจกลายเป็นลมและกลุ่มเมฆ เสียงกลายเป็นฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ตาซ้ายกลายเป็นเทือกเขาและภูเขา คอยค้ำยันฟ้าดินให้อยู่ห่างกันต่อไป ส่วนเลือดกลายมาเป็นแม่น้ำ เส้นเลือดกลายเป็นถนนหนทาง เนื้อกลายเป็นต้นไม้และดิน เส้นขนบนหัวกลายเป็นดวงดาว ผิวหน้ากับขนตามลำตัวกลายเป็นต้นหญ้า ดอกไม้ ส่วนฟันและกระดูกกลายเป็นหินและแร่ธาตุ ส่วนเหงื่อกลายมาเป็นน้ำค้าง

ส่วนคนเรามาจากตัวพยาธิ เห็บ หมัด ที่แทรกอยู่ในตัวเจ้าผางอู๋ ส่วนแขนขาลำตัวที่กลายมาเป็นภูเขาเทือกเขาเปรียบเสมือนเสาที่คอยค้ำยันฟ้ากับดินไว้ ภูเขาที่สำคัญที่สุดคือด้านตะวันออกและตะวันตก ภูเขาด้านตะวันออกมีชื่อว่า ไทซาน (Tai shan) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีอยู่จริงตามภูมิศาสตร์ของจีน ผู้ที่ดูแลรักษาภูเขาแห่งนี้มีชื่อว่า มูคุง (Mu-Kung) ผู้เป็นใหญ่แห่งหยาง และเทพเจ้าแห่งความเป้นอมตะ ส่วนภูเขาด้านตะวันตกมีชื่อว่า คุนลุน (Kun-lun) หรือเรียกว่า คุนลุ้น ภูเขาสูงเสียดฟ้าและหยั่งรากลึกลงไปในดิน เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเหลืองและเป็นที่สถิตอยู่ของเทพเจ้าหลายองค์

บางตำรากล่าวว่า

มนุษย์มาจากการเสกสรรปั้นแต่งของเทพเจ้าชื่อนูกัว เทพเจ้าตนนี้มีส่วนเป็นมนุษย์ส่วนล่างเป็นมังกร สร้างสรรค์ปั้นแต่งสิ่งต่างๆได้มากมาย อยู่มาวันหนึ่ง เทพเจ้านูกัวรู้สึกว่าโลกช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว เลยอยากสร้างอะไรซักอย่างมาเป็นเพื่อน ว่าแล้วไม่รอช้า ตรงที่แม่น้ำเอาโคลนมา ปั้นส่วนบนให้เหมือนนาง แต่ส่วนล่างปั้นให้มีขาแทน จะได้ตั้งได้ ปั้นเสร็จก็ให้ชีวิตด้วย เจ้ามนุษย์ที่ปั้นมาเลยมีความสามารถร้องรำทำเพลง ทำให้นางมีความสุข เทพเจ้านูกัวเลยได้ความคิดว่าถ้าโลกมีสิ่งมีชีวิตนี้มากๆคงจะดี ว่าแล้วนางเลยนั่งปั้นโคลน วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า จำนวนที่ปั้นได้ยังไม่มากพอซักทีเลยคิดวิธีใหม่ ว่าแล้วก็ไปเอาเถาวัลย์ยาวๆจุ่มลงไปในโคลนแล้วบิดเกลียว โคลนที่ติดเถาวัลย์หยดลงมาเป็นตัวตน เป็นรูปร่างมนุษย์ขึ้น เขาเชื่อว่ามนุษย์ใดที่เทพเจ้านูกัวปั้นจะร่ำรวย แต่มนุษย์ใดเกิดจากเถาวัลย์ปั้นจะโชคร้าย มีชีวิตยากลำบาก ต่อมาเทพเจ้านูกัวก็คิดอีกว่า ถ้านางไม่อยู่แล้วใครมามานั่งปั้นส่วนมนุษย์ที่ตายไปละเนี่ย นางเลยแบ่งมนุษย์ออกเป็นสองเพศ คือชาย-หญิง จะได้สามารถผลิตมนุษย์เองได้ มนุษย์เลยมีจำนวนมากมาย


ต้นตระกูลของเทพเจ้า

                 
ในช่วงแรกของจักรวาลไม่ได้มีสรวงสวรรค์ให้เทพเจ้าอยู่แต่อย่างใด จนกระทั่งเกิดผางอู๋ขึ้นมา ถือได้เลยว่าผางอู๋เป็นต้นกำเนิดของเทพเจ้า เพราะได้ทำการแบ่งแยกสวรรค์และโลกมนุษย์ออกจากกัน โดยผางอู๋ ได้อาศัยอยู่ที่เทือกเขาสูงเสียดฟ้าเหนือพื้นดิน ซึ่งเรียกว่าเทือกเขาหยก(Jade capital Mount) โดยได้อาศัยอากาศจากสวรรค์ และดื่มน้ำจากโลกมนุษย์

หลังจากนั้นมาเนิ่นนาน ได้มีเทพเจ้าจากสวรรค์ที่ชื่อว่า เทพเจ้าหยก หรือ หยูจิงซิ่น ได้มาประสบพบพักตร์กับสาวเจ้านางหนึ่งของโลกมนุษย์ซึ่งเป็นต้นตระกูลของเทพเจ้าบนโลกมนุษย์เช่นกัน ทำให้เกิดการรวมตัวกันของสวรรค์และโลกมนุษย์ขึ้น ซึ่งได้ก่อกำเนิด กษัตริย์ 3 องค์ และจักรพรรดิ 5 องค์ ปกครองโลกมนุษย์สืบต่อกันมา


กษัตริย์ผู้วิเศษ 3 องค์ มีนามว่า


เทียนหวง (Tien Huang) หรือเจ้าฟ้า


ตี้หวง(Ti Huang) หรือเจ้าดิน


เหยินหวง (Jen Huang) หรือเจ้าคน

เทียนหวงหรือเจ้าฟ้ามีน้องชาย 12 คน ครองโลกอยู่ 18,000 ปี จึงสิ้นอายุขัย มรดกที่ทั้งไว้แก่ชาวโลกคือ ได้ตั้งชื่อปีทั้ง 12 ปีของจักรราศีตามชื่อน้องชาย 12 คน

ตี้หวง หรือเจ้าดิน มีน้องชาย 10 คน ครองโลกอยู่ 18,000 ปี เหมือนกัน กษัตริย์องค์นี้ได้ตั้งชื่อแซ่ของมนุษย์ แบ่งเวลาเป้นกลางวัน และกลางคืน จัดเป็นข้างขึ้นข้างแรม แบ่งปีเป็น 365 วัน แบ่งเดือนเป็น 30 วัน และจัดแบ่งฤดูกาลเป็น 4 ฤดู

ส่วนเหยินหวง หรือเจ้าคน มาปกครองโลกต่อจากตี้หวง เหยินหวงมีน้องชาย 8 คน ได้จัดระเบียบของสังคมและสร้างความเจริญทางด้านวัฒนธรรม เช่น แยกมนุษย์กับสัตว์ให้อยู่คนละส่วน ให้มีการแบ่งชั้นวรรณะ ให้รู้จักกินอยู่อย่างมีระเบียบ ให้รู้จักพิธีแต่งงานเป็นต้น เหยินหวงครองโลกอยู่ 45,600 ปีจึงสิ้นอายุ

พอหมดยุคของเทียนหวง ตี้หวง และเหยินหวง แล้วก็ถึงยุคของจักรพรรดิทั้ง 5 ได้แก่

ฮวงตี (Huang Ti) ชวนเสียน(Chuan Hsiun) คุน (Khun) เหยา(Yao) และชุน(Shun)ตามลำดับ ในยุคต้นของจักรพรรดิทั้งห้านั้น มวลมนุษย์ต่างอยู่กันอย่างมีความสุข จนผ่านไปถึงแผ่นดินของจักรพรรดิเหยา แม้จะทรงเป็นจักรพรรดิที่ดี มีเมตตาธรรม แต่ช่วงนั้นเกิดการปั่นป่วน จากการอาละวาดของภูตผีปีศาจ กว่าจะปราบศึกเสร็จเล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกันทั้งเทพเจ้าและจักรพรรดิ

ขอกลับมาต้นตระกูลของเทพเจ้าที่เทพเจ้าหยูจิงซิ่น อีกครั้ง เทพเจ้าองค์นี้อาศัยอยู่ในเทือกเขาเจด หรือหุบเขาสวรรค์ หุบเขาสวรรค์แห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 90,000 ลี้ ราว 45,000 ตร.กม. ทั้งพื้นที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ล้ำค่ามีผลเป็นสีแดง และรายล้อมด้วยสระบัว ภายในหุบเขาสวรรค์มีพระราชวัง 7 แห่ง ราชวังแต่ละแห่งมีวังย่อยอีก 3 วัง แบ่งเป็นวังกลาง วังบน วังล่าง มีพื้นที่กว้างขวาง โอ่อ่า ประดับประดาด้วยทองคำล้ำค่า เทพเจ้าหยูจิงซิ่นได้อาศัยอยู่ในหุบเขาสวรรค์แห่งนี้จนสิ้นอายุขัย

ในปัจจุบันยังคงมีชาวจีนนับถือเทพเจ้าองค์นี้อยู่มากมาย เรียกได้ว่าเป็นต้นตระกูลของเทพเจ้าเลย

  ข้อมูลจาก http://www.geocities.com/thinkingworld/myth/chinamyth.html

 


 




เรื่องน่ารู้ เทพเจ้าจีน เทพเจ้าฮินดู ของมงคล วัตถุมงคล ฮวงจุ้ย

Chinese new year
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแผนผังแปดทิศ
แปดวิเศษของโป๊ยเซียน
การตั้งเทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ย
วิธีบูชาเจ้าแม่กวนอิม
เครื่องราง ติดตัวไว้ได้โชคร่ำรวย
วิธีการบูชาพระพิฆเนศอย่างถูกต้อง
ควรบูชา พระพิฆเนศ อย่างไร
ประวัติพระพิฆเนศในประเทศไทย
ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ
ประวัติชูชก สุดยอดในการขอ
แก้กรรม เสริมดวง
ชุมทางอาชีพ สัมภาษณ์ numchoke.com
ตำนานแปดเซียน article
ประวัติเทพเจ้ากวนอู article
เทพเจ้ากับการบูชา article
เทพไฉ่สิ่งเอี้ย article
พรีเมียม เสริมชะตา article
คาถาบูชา บทสวดมนต์ง่ายๆ สำหรับบูชาพระพิฆเนศ



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
125/6 หมู่ที่ 3 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
โทร. 02-923-3366 , 081-407-0119

วันทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ : 08.30- 17.00 น.

E-mail : lekbasic@gmail.com